FIC FAIRY TAIL : Once upon a time .
กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว มีเจ้าหญิงกับมังกรร้าย และจุมพิตจากรักแท้...
ผู้เข้าชมรวม
924
ผู้เข้าชมเดือนนี้
2
ผู้เข้าชมรวม
ONCE UPON A TIME
Author: hawaze / Rating : PG
Fandom : Fairy Tail / Pairing: Gajeel Redfox & Levy McGarden
Inspiration : Rusky Boz ♡
เนื้อเรื่อง
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
…กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว ณ อาณาจักรอันไกลโพ้น….
…เจ้าหญิงผู้งดงามโดนมนต์ร้ายสาปให้ถูกขังตลอดกาล…
…นางถูกขังบนหอคอยสูงเฉียดฟ้า โดยมีมังกรร้ายเฝ้าอยู่…
…เพื่อรอคอยความช่วยเหลือจากเจ้าชายรูปงามที่กล้าหาญ…
…และจุมพิตจากรักแท้เพื่อถอนคำสาปร้ายให้หมดไป…
ดวงตาสีแดงฉานของสัตว์ร้ายจ้องมองบางสิ่ง
บางสิ่งนั้นสะท้อนอยู่ในดวงตาของมัน มันเป็นร่างของเด็กสาวภายในห้องบนหอคอยสูงเฉียดฟ้า เธอซ่อนใบหน้าของตนไว้ด้วยฝ่ามือทั้งสองข้าง เสียงสะอื้นไห้ดังก้องสะท้อนกังวานจนยิ่งทำให้รู้สึกโดดเดี่ยว มังกรร้ายเฝ้ามองเช่นนี้มาทุกค่ำคืน เนิ่นนานแต่ไม่อาจชาชินได้
เขาอยากจะปลอบประโลม แต่หากอุ้งมืออันใหญ่โตและกรงเล็บนี้คงเผลอทำให้นางบาดเจ็บ…
สิ่งที่เจ้ามังกรร้ายนั่นทำได้ จึงเป็นเพียงการร้องคำรามจนดังกึกก้องจนกลบเสียงสะอื้นไห้จนสิ้น เหลือเพียงหญิงสาวที่สะดุ้งโหยงอย่างหวาดกลัว แล้วหลับไปพร้อมร่างบอบบางที่สั่นระริก
.
.
.
มังกรร้ายเฝ้ามองดูเด็กสาวบนหอคอยอยู่ห่างๆโดยไม่ให้เจ้าตัวรู้ เพราะทุกครั้งที่เห็นเขา ร่างน้อยๆจะสั่นกลัวอย่างหนักจนอดสงสารไม่ได้ ในหอคอยเงียบเหงาไร้ผู้คน เด็กสาวเหมือนตุ๊กตาไร้ชีวิต ไม่ยอมทานอะไร ไม่ว่าตนจะ(แอบ)นำเอาอาหารแบบไหนมาให้ นางก็จะทำเพียงแค่มองมันด้วยนัยน์ตาไร้แววชีวิต หัวใจของมังกรร้ายหวั่นกลัวอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน แม้ในยามที่เจอปีศาจร้ายยากจะรับมือ
เจ้าหญิงตื่นขึ้นมาอีกวันด้วยร่างกายแสนอ่อนแอของตนเช่นคืนวันที่ผ่านมา แต่หากจะมีบางอย่างที่เปลี่ยน นั่นคือนัยน์ที่เคยไร้แววชีวิตเปลี่ยนไป เฉดสีน้ำผึ้งในดวงตาคู่นั้นเริ่มมีชีวิตขึ้นมาอีกครั้ง เมื่อนางมองเห็นดอกไม้สีขาวสวยเป็นกลมๆ เธอหยิบมันขึ้นมาอย่างทะนุถนอม ความแปลกใหม่ที่เธอไม่เคยพบเห็น ข้างกันนั้นมีหนังสือเล่มหนึ่งวางไว้ เด็กสาวเปิดหนังสือเล่มนั้น ภายในประกอบไปด้วยดอกไม้นานาชนิด พร้อมตำนานเรื่องเล่าถึงความหมายมากมาย ความสนใจเป็นประกายในดวงตา เธอมองดอกไม้ในมืออีกข้างก่อนจะเริ่มเปิดไล่หาที่ตรงกัน
“ดอกแดนดิไลออน เป็นดอกไม้ที่แสดงถึงความสุขและ…” เด็กสาวอ่านตามตัวอักษร จงใจเว้นวรรคก่อนที่จะอ่านจบ แล้วหยิบดอกแดนไดลิออนขึ้นมาแทน รอยยิ้มแรกปรากฏบนใบหน้าเนิ่นนาน ก่อนที่จะเปลี่ยนเป็นการเป่าลมเบาๆ ให้ละอองของดอกแดนดิไลออนสีเหลืองลอยออกจากตัวต้น พลิ้วไปตามสายลมที่พัดผ่านหน้าต่างของหอคอยสูงนี้
“ความหวัง”
.
.
.
เวลาผ่านไปเนิ่นนาน จากเดือนเป็นปี เด็กสาวเติบโตเป็นหญิงสาว งดงามสมกับเป็นเจ้าหญิง ห้องที่เคยกว้างโล่ง หนาแน่นไปด้วยหนังสือมากมายจากนางฟ้าแม่ทูนหัว นางช่างมีความสนใจในการอ่านและเรียนรู้ คงเพราะนางได้เรียนรู้โลกกว้างจากหนังสือมากมายเหล่านี้
“เฮ้อ….” เสียงผ่อนลมหายใจเบาๆ ตามมาพร้อมหนังสือที่ถูกปิด หญิงสาวเดินลงจากเตียงแล้วหยุดลงที่ริมหน้าต่างของหอคอยสูงชัน ดวงตามองออกไปไกลสุดไกลถึงขอบฟ้า การได้เรียนรู้ผ่านหนังสือจะไปดีกว่าการออกไปพบเจอด้วยตัวเองได้อย่างไร
ดวงตาสีน้ำผึ้งเหลือบมองเจ้ามังกรร้ายที่เฝ้าอยู่ไม่ไกล ตัวของมันใหญ่โตมโหราฬ เกร็ดของมันเป็นสีดำทมิฬแวววับ ดวงตาสีแดงฉานของมันช่างดูดุร้าย กรงเล็บใหญ่และเขี้ยวแหลมคมที่พร้อมจะฉีกขยี้ทุกอย่าง เธอยังจำเสียงคำรามของมันได้เหมือนมันก้องอยู่ในหัวตลอดเวลา เพียงแค่นึกถึงร่างบอบบางก็สั่นเกร็ง เธอกอดแขนของตัวเองเพื่ออดกลั้นความกลัวนั้น น้ำตาใสค่อยๆรื้นจนคลอเต็มหน่วย
ได้โปรดเถิด.. เจ้าชายผู้กล้าหาญ รีบมาฆ่าเจ้ามังกรนั่นซะ แล้วพาข้าออกไปจากที่นี่ที….
.
.
.
เจ้ามังกรร้ายกำลังคิดไม่ตกอีกครั้ง
ดูเหมือนเขาจะเข้าใจผิดเกี่ยวกับมนุษย์ไป ความเงียบงันของหอคอยไม่น่าอึดอัดเช่นกาลก่อน เพราะความเงียบครั้งนี้เกิดจากหญิงสาวนั้นกำลังตั้งสมาธิกับหนังสือใหม่ๆของตน แต่ที่เขากำลังสงสัยคือปฎิกิริยาของมนุษย์นางนั้นตะหาก
ยามมีความสุขมนุษย์จะยิ้ม แล้วไฉนเขายังได้ยินเสียงสะอื้นไห้ในยามค่ำคืนอยู่ ?
แม้มีหลายคืนที่หญิงสาวผล็อยหลับไประหว่างอ่านหนังสือจนลืมปิดหน้าต่างและห่มผ้าเพื่อกันความหนาวและเพิ่มความอบอุ่นให้ร่างกายเป็นประจำ แต่หลายคืนที่นางไม่อาจข่มตาหลับด้วยหนังสือเล่มใด ความเงียบจะถูกทดแทนด้วยเสียงร้องไห้เบาสะท้อนอื้ออึงเพราะใบหน้างดงามนั้นถูกซ่อนไว้ด้วยฝ่ามือทั้งสอง จนในที่สุดก็ผล็อยหลับไป
เขาเข้าใจว่ามนุษย์จะร้องไห้เมื่อมีเรื่องเศร้าโศกเสียใจ และจะยิ้มเมื่อมีความสุข แล้วการที่นางยังร้องไห้อยู่ นั่นหมายถึงนางยังคงเศร้าโศกเสียใจอยู่งั้นสิ?
เจ้ามังกรพยายามสรรหาหนังสือใหม่ๆมาให้ แต่นางก็ยังไม่เปลี่ยนไป เจ้ามังกรเปลี่ยนมื้ออาหารให้หรูหรามากยิ่งขึ้น นางก็ยังคงเหมือนเดิม แม้จะสรรหาดอกไม้มากมายที่นางเคยเห็นเพียงภาพหนังสือ นางก็ยังคงเหมือนเคย หรือกระทั่งเสื้อผ้าสวยงามมากมาย ก็ยังคงไม่มีอะไรเปลี่ยนไป
ทุกๆสิ่งที่เจ้ามังกรทำได้รับรอยยิ้มเสมอ รอยยิ้มนุ่มนวลชวนมองที่มันชอบ แต่สุดท้ายมันก็จบลงด้วยเสียงร้องไห้ยามค่ำคืนที่มันเกลียดทุกครั้ง
หากไม่ใช่รอยยิ้ม มนุษย์ที่มีความสุขต้องเป็นเช่นไร?
.
.
.
หัวเราะ
เสียงหัวเราะสดใสดังแว่วหวานก้องบนหอคอยสูง ร่างของหญิงสาวเข้าไปกอดรัดเสือดำตัวโตที่เธอเพิ่งตั้งชื่อสุดแสนจะไม่เข้ากันว่าลิลลี่ ที่ทำให้เธอหัวเราะจนท้องแข็งได้ เพราะดูมันจะทำหน้าบอกบุญไม่รับทันทีที่ได้ยิน ถึงกระนั้นมันก็ยินดีที่จะออดอ้อนเธอ ของขวัญวันเกิดปีที่สิบแปดจากนางฟ้าแม่ทูนหัวของเธอคือลิลลี่ เจ้าเสือดำตัวโตแสนใจดีผิดกับนิสัยเสือที่ควรจะดุร้าย หลังจากวันนั้นหอคอยก็เต็มไปด้วยเสียงหัวเราะจ้อไม่หยุดของเจ้าหญิง ทั้งเล่านิทาน พูดคุย ละเล่น แกล้งหยอกอย่างสนุกสนาน วันคืนผ่านไปอย่างมีสีสันเพิ่มขึ้นมา
ถึงกระนั้นก็ยังมีเสียงร้องไห้ให้ได้ยินอยู่…
เจ้ามังกรร้ายสับสนหนัก หญิงสาวทั้งยิ้มและหัวเราะ แต่นางก็ยังไม่มีความสุข การมีลิลลี่ไม่ได้ทำให้เธอมีความสุข หรือว่ามันยังไม่ใช่สิ่งที่เธอต้องการกันแน่?
ค่ำคืนนี้ไร้เสียงสะอื้นไห้ เจ้ามังกรเดาว่าคืนนี้หญิงสาวคงเหนื่อยจากการเล่นกับลิลลี่ทั้งวัน หรือไม่ก็คงอ่านหนังสือจนผล็อบหลับไปเหมือนทุกครั้ง ร่างใหญ่โตของมังกรโอบล้อมหอคอยสูง ดวงตาของมันจ้องมองเข้าไปยังเตียงกว้างทางหน้าต่าง ภาพของหญิงสาวที่หลับอยู่ทำให้มันเอียงคอด้วยความฉงน
ใบหน้างดงามหลับพริ้มริมฝีปากระเรื่อยิ้มกว้างอย่างยินดีแสนสุขราวกับความปราถานาใดๆเป็นจริง เจ้ามังกรเดาได้ว่านางคงกำลังฝันดีอย่างมากอยู่เป็นแน่
“รักแท้…”
.
.
.
เจ้ามังกรร้ายเฝ้าครุ่นคิด รักแท้คืออะไร?
เขาเฝ้าตามหามัน แต่ไม่ว่าจะตามหาที่ใดก็ไม่พบ มันไม่ใช่ทั้งสิ่งของ สถานที่ หรือบุคคล แต่ถึงกระนั้นเจ้ามังกรก็ยังคงออกตามหามันต่อแม้จะไม่ค่อยเข้าใจนัก
หากแต่รอยยิ้มที่ได้เห็นในคืนนั้น ตราตรึงฝังฝันในหัว เช่นเดียวกับความรู้สึกของหัวใจที่แปลกประหลาด มันเต้นไหวแรง สูบฉีด พองโต และเจ้ามังกรไม่อาจเข้าใจได้ว่ามันคืออะไร แต่ที่แน่ๆ มันชอบที่ได้รู้สึกแบบนั้นเพราะมนุษย์ผู้หญิงคนนี้
และมันต้องการที่จะทำให้รอยยิ้มนั้นปรากฏอีกครั้ง เช่นเดียวกับความรู้สึกนั้นด้วย
ค่ำคืนนี้แม้จะดึกดื่นแล้วแต่เจ้ามังกรก็ยังนอนไม่หลับ เขายังคงคิดว่าจะจัดการยังไงกับเจ้า ‘รักแท้’ ที่หญิงสาวปรารถนาต้องการดี ทำให้คืนนี้มันเลือกที่จะมาแอบดูอีกครั้ง เพื่อจะได้รู้อะไรเกี่ยวกับเจ้า ‘รักแท้’ มากยิ่งขึ้น อาจเป็นข้อมูลดีๆที่จะช่วยให้เขาหามันเจอ
เจ้ามังกรชะโงกหัวมองไปยังหน้าต่างอีกครั้ง แต่คืนนี้มันต้องชะงักงันเมื่อพบร่างบางนั่งอยู่ที่ริมหน้าต่าง หญิงสาวสะดุ้งถอยห่างจากริมหน้าต่างด้วยความตกใจ ดวงตากลมโตสั่นระริกเมื่อจ้องตอบนัยน์ตาของสัตว์ร้ายสีแดง เจ้ามังกรรู้ตัวว่ากำลังทำให้นางหวาดกลัว ดูเหมือนแผนที่คิดจะลอบฟังเรื่องรักแท้จะต้องเลื่อนไปก่อน มันตัดสินใจจะออกไปให้ห่างจากตัวหอคอย เพื่อให้หญิงสาวผ่อนคลาย
แต่แล้ว…
“เดี๋ยวก่อน” เสียงหวานเอ่ยเบาๆ แต่ก็มากพอให้เจ้ามังกรหยุดมอง หญิงสาวมีท่าทีลังเลกล้าๆกลัวๆสักครู่ ก่อนจะตัดสินใจหันมองเจ้ามังกรซึ่งๆหน้า
“จะ เจ้าเองก็นอนไม่หลับหรอ” เจ้ามังกรเลิกคิ้ว หัวเราะในใจอย่างประหลาดใจ ดูเหมือนนางมนุษย์นี้จะเหงามากจนยอมคุยกับมังกรแล้วรึ?
หญิงสาวค่อยๆเดินเข้ามาใกล้ที่ริมหน้าต่างอีกครั้ง “เจ้าชื่อกาซีล… ใช่หรือเปล่า”
เจ้ามังกรแปลกใจอีกครั้ง เขาไม่คิดว่าเธอจะจดจำชื่อของเขาได้หรอก เขาตอบไม่ได้จึงทำได้เพียงกดหัวลงเล็กน้อยแทนคำตอบ
“งะ งั้นเหรอ” เมื่อเห็นว่าเจ้ามังกรไม่มีท่าทีอันตราย หญิงสาวก็ดูจะผ่อนคลายขึ้นมาบ้าง
“ฉันชื่อเลวี่” เป็นครั้งแรกที่ได้รู้จักชื่อของหญิง… เลวี่ ดวงตาสีเฮเซลนัทยามต้องแสงจันทร์เป็นประกายจนหวานจนเหมือนน้ำผึ้งพระจันทร์ กาซีลมองมันโดยไม่อาจละสายตาได้ นี่เป็นครั้งแรกที่เขาได้สบตาของเธอชัดๆ และเธอเองก็มองสบตาเขาโดยไม่หวาดกลัว
และแล้วก็ปรากฏรอยยิ้ม
“ฉันเล่านิทานให้ฟังเอามั้ย?” น้ำเสียงระรื่นฟังดูตื่นเต้น กาซีลคุ้นเคยเสียงเดียวกันนี้ตอนที่เลวี่อ่านหนังสือให้ลิลลี่ฟัง เธอมองเขาโดยไม่หวาดกลัวใดๆ มีเพียงสีหน้าเป็นมิตรและรอยยิ้มที่รอคำตอบ กาซีลทำตัวไม่ถูก เป็นครั้งแรกในรอบร้อยปีของชีวิตมังกรที่เขารู้สึกประหม่า
“ว่าไง อยากฟังหรือเปล่า ฉันเล่าเก่งนะ ลิลลี่ยังชอบเลย” เลวี่พูดอย่างภมูใจ ในขณะที่กาซีลครางอื้ออึงเบาๆในลำคอ อยากจะหัวเราะออกมาซะเหลือเกิน ลิลลี่ยังชอบอะไรกันก็เห็นหลับก่อนเล่าจบทุกที
แต่กาซีลก็ยอมที่จะลดหัวไปกับพื้น วางทับอยู่บนเนินแขนทั้งสองข้าง หลับตาลงช้าๆและปล่อยให้เสียงอ่อนโยนขับขานเรื่องราวสู่นิทรา
.
.
.
บางครั้งพวกปีศาจก็แฝงตัวมาในรูปโฉมงดงาม เพื่อฉกฉวยโอกาสและชีวิตของมนุษย์อ่อนแอ
กาซีลฉีกกระชากร่างของปีศาจที่จำแลงกายเป็นเจ้าชายมา มันเข้าใกล้หอคอยโดยที่เขาแทบไม่ทันรู้ตัว ที่หน้าต่างบานนั้น เลวี่ยืนรออยู่ เธอมองไปยังเจ้าชายด้วยความดีใจที่ล้นปรี่ โดยที่ไม่รู้เลยว่ากำลังถูกปีศาจหลอกล่อ
กาซีลไม่ลังเลที่จะพุ่งเข้าใส่มัน จับฉีกกระชากร่างนั้นจนขาดเป็นชิ้นๆ เลือดคาวสีแดงสดกระเด็นทั่ว นองไหลเป็นทางจนเป็นภาพสยองขวัญ หัวถูกเขี้ยวของมังกรกัดจนจมก่อนจะถูกกัดขาดออกเป็นสองส่วน ร่างตายกรงเล็บเละจนแทบแยกส่วนไม่ได้ กลิ่นคาวคละคลุ้งไปกับสายลมชวนให้อาเจียน
“ฮึก...” เสียงสะอื้นดังอยู่ไม่ห่างทำให้กาซีลรู้โดยไม่ทันต้องหันมอง นัยน์ตาสีเฮเซลที่เคยหวานดุจน้ำผึ้งพระจันทร์คืนนั้นซีดลง ดวงตาเบิกกว้างอย่างตกใจ น้ำตาใสไหลล้นจนอาบใบหน้า มือเล็กๆทั้งสองปิดปากไว้กับภาพตรงหน้าและเหตุการณ์เมื่อครู่ เจ้ามังกรที่เธอคิดว่ามันแตกต่าง
จริงๆแล้วไม่ใช่เลย…
ราตรีนั้นหอคอยสูงมีเพียงเสียงร้องไห้สะอื้นปะปนกันกับการอ้อนวอนของเลวี่ น้ำเสียงแสนอ่อนแรงสิ้นหวังเหมือนโลกล่มสลาย แม้จะมองไม่เห็นเพราะหน้าต่างที่ถูกปิดล็อคด้วยคนข้างใน แต่กาซีลก็สัมผัสได้ถึงความเจ็บปวดที่ก่อตัวภายในหัวใจของตน
“ฮึก… ไหนว่าเจ้าชายจะช่วยได้ นางฟ้าแม่ทูนหัว… แล้วทำไม ฮึก.. ทำไมถึงเป็นแบบนี้… ได้โปรด ถ้ารักแท้มีจริง… ช่วยฉันไปจากมังกรร้ายนี่ที”
แม้ไม่มีบาดแผล แต่กาซีลรู้สึกเจ็บปวดเสียยิ่งกว่าบาดแผลใดๆที่เคยได้รับ คำพูดทุกประโยคเสียดแทงเหมือนดาบแหลมคมที่อาบยาพิษ มันเจ็บปวดคลั่งค้างและซึมลึกเข้าไปในจิตใจ ที่ตระหนักได้ถึงคำตอบของความจริง
สิ่งที่เลวี่ปรารถนาแท้จริง รักแท้ที่นางต้องการ
เขาไม่สามารถให้ได้โดยอ้างชื่อ นางฟ้าแม่ทูนหัว ในเรื่องนี้
เพราะรักแท้ที่เลวี่ปรารถนา มีเพียงเจ้าชายที่พิชิตมังกรร้ายได้เท่านั้นจะมอบ
เพื่อคลายคำสาปที่กักขังเธอ ให้เป็นอิสระและมีความสุขแท้จริง
…หัวใจแกร่งกล้าดุจเหล็กไหลของมังกรกำลังแตกร้าว…
.
.
.
เสียงกรีดร้องสิ้นใจดังกึกก้องกังวานไปทั่วทุกสารทิศ บอกแก่ทุกคนให้ได้รู้ว่ามังกรร้ายได้ตายลงแล้ว ด้วยคมดาบของเจ้าชายที่เจ้าหญิงรอคอย เขาละทิ้งดาบนั่นไว้บนตัวอสูรร้าย ขึ้นควบอาชาขาวสง่างามไปยังหอคอย แล้วปลดปล่อยเจ้าหญิงจากคำสาปด้วยจุมพิตจากรักแท้ ก่อนจะพาเจ้าหญิงออกไปโดยทิ้งหอคอยร้างไว้กับร่างของมังกรที่ไร้วิญญาณโดยไม่เหลียวกลับมามอง
ทั้งสองกลับสู่เมืองด้วยความปลื้มปิติของปวงประชาชน ก่อนจะสาบานรักต่อหน้าพระเจ้าด้วยการแต่งงานและอภิเสกขึ้นเป็นราชาและราชินี อยู่ด้วยกันอย่างมีความสุขชั่วนิรันด์
…กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว ณ อาณาจักรอันไกลโพ้น….
…เจ้าหญิงผู้งดงามโดนมนต์ร้ายสาปให้ถูกขังตลอดกาล…
…นางถูกขังบนหอคอยสูงเฉียดฟ้า โดยมีมังกรร้ายเฝ้าอยู่…
…และในที่สุดเจ้าชายกล้าหาญก็มาถึง เขาใช้ดาบฟาดฟันมังกรร้ายจนตายสิ้น…
…ก่อนจะพาเจ้าหญิงที่มังกรร้ายเฝ้ากักขังมาหลายปีไป…
…ถอนคำสาปด้วยจุมพิตจากรักแท้ให้กับเจ้าหญิง…
…เจ้าชายและเจ้าหญิงก็แต่งงานกัน และอยู่ด้วยกันอย่างมีความสุขตลอดไป…
…เหมือนดั่งเทพนิยายในนิทาน…
.
.
.
.
ผลงานอื่นๆ ของ hawaze. :) ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ hawaze. :)
ความคิดเห็น