FIC FAIRY TAIL : Once upon a time…. - FIC FAIRY TAIL : Once upon a time…. นิยาย FIC FAIRY TAIL : Once upon a time…. : Dek-D.com - Writer

    FIC FAIRY TAIL : Once upon a time….

    กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว มีเจ้าหญิงกับมังกรร้าย และจุมพิตจากรักแท้...

    ผู้เข้าชมรวม

    924

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    2

    ผู้เข้าชมรวม


    924

    ความคิดเห็น


    16

    คนติดตาม


    7
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  3 ก.ค. 58 / 05:55 น.


    ข้อมูลเบื้องต้น





    ONCE UPON A TIME


    Author: hawaze / Rating : PG
    Fandom : Fairy Tail / Pairing: Gajeel Redfox & Levy McGarden
    Inspiration : Rusky Boz 




     




     
     

    (c)  Chess theme
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

       

       


       

       

       

      กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว ณ อาณาจักรอันไกลโพ้น….

      เจ้าหญิงผู้งดงามโดนมนต์ร้ายสาปให้ถูกขังตลอดกาล

      นางถูกขังบนหอคอยสูงเฉียดฟ้า โดยมีมังกรร้ายเฝ้าอยู่

      เพื่อรอคอยความช่วยเหลือจากเจ้าชายรูปงามที่กล้าหาญ

      และจุมพิตจากรักแท้เพื่อถอนคำสาปร้ายให้หมดไป

       

       

       

       

                  ดวงตาสีแดงฉานของสัตว์ร้ายจ้องมองบางสิ่ง

                  บางสิ่งนั้นสะท้อนอยู่ในดวงตาของมัน มันเป็นร่างของเด็กสาวภายในห้องบนหอคอยสูงเฉียดฟ้า เธอซ่อนใบหน้าของตนไว้ด้วยฝ่ามือทั้งสองข้าง เสียงสะอื้นไห้ดังก้องสะท้อนกังวานจนยิ่งทำให้รู้สึกโดดเดี่ยว มังกรร้ายเฝ้ามองเช่นนี้มาทุกค่ำคืน เนิ่นนานแต่ไม่อาจชาชินได้

                  เขาอยากจะปลอบประโลม แต่หากอุ้งมืออันใหญ่โตและกรงเล็บนี้คงเผลอทำให้นางบาดเจ็บ

       

                  สิ่งที่เจ้ามังกรร้ายนั่นทำได้ จึงเป็นเพียงการร้องคำรามจนดังกึกก้องจนกลบเสียงสะอื้นไห้จนสิ้น เหลือเพียงหญิงสาวที่สะดุ้งโหยงอย่างหวาดกลัว แล้วหลับไปพร้อมร่างบอบบางที่สั่นระริก

       

      .

       

      .

       

      .

       

                  มังกรร้ายเฝ้ามองดูเด็กสาวบนหอคอยอยู่ห่างๆโดยไม่ให้เจ้าตัวรู้ เพราะทุกครั้งที่เห็นเขา ร่างน้อยๆจะสั่นกลัวอย่างหนักจนอดสงสารไม่ได้ ในหอคอยเงียบเหงาไร้ผู้คน เด็กสาวเหมือนตุ๊กตาไร้ชีวิต ไม่ยอมทานอะไร ไม่ว่าตนจะ(แอบ)นำเอาอาหารแบบไหนมาให้ นางก็จะทำเพียงแค่มองมันด้วยนัยน์ตาไร้แววชีวิต หัวใจของมังกรร้ายหวั่นกลัวอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน แม้ในยามที่เจอปีศาจร้ายยากจะรับมือ

                 

                   เจ้าหญิงตื่นขึ้นมาอีกวันด้วยร่างกายแสนอ่อนแอของตนเช่นคืนวันที่ผ่านมา แต่หากจะมีบางอย่างที่เปลี่ยน นั่นคือนัยน์ที่เคยไร้แววชีวิตเปลี่ยนไป เฉดสีน้ำผึ้งในดวงตาคู่นั้นเริ่มมีชีวิตขึ้นมาอีกครั้ง เมื่อนางมองเห็นดอกไม้สีขาวสวยเป็นกลมๆ เธอหยิบมันขึ้นมาอย่างทะนุถนอม ความแปลกใหม่ที่เธอไม่เคยพบเห็น  ข้างกันนั้นมีหนังสือเล่มหนึ่งวางไว้ เด็กสาวเปิดหนังสือเล่มนั้น ภายในประกอบไปด้วยดอกไม้นานาชนิด พร้อมตำนานเรื่องเล่าถึงความหมายมากมาย ความสนใจเป็นประกายในดวงตา เธอมองดอกไม้ในมืออีกข้างก่อนจะเริ่มเปิดไล่หาที่ตรงกัน

                  ดอกแดนดิไลออน เป็นดอกไม้ที่แสดงถึงความสุขและ…” เด็กสาวอ่านตามตัวอักษร จงใจเว้นวรรคก่อนที่จะอ่านจบ แล้วหยิบดอกแดนไดลิออนขึ้นมาแทน รอยยิ้มแรกปรากฏบนใบหน้าเนิ่นนาน ก่อนที่จะเปลี่ยนเป็นการเป่าลมเบาๆ ให้ละอองของดอกแดนดิไลออนสีเหลืองลอยออกจากตัวต้น พลิ้วไปตามสายลมที่พัดผ่านหน้าต่างของหอคอยสูงนี้

                  ความหวัง

       

      .

       

      .

       

      .

       

                  เวลาผ่านไปเนิ่นนาน จากเดือนเป็นปี เด็กสาวเติบโตเป็นหญิงสาว งดงามสมกับเป็นเจ้าหญิง ห้องที่เคยกว้างโล่ง หนาแน่นไปด้วยหนังสือมากมายจากนางฟ้าแม่ทูนหัว นางช่างมีความสนใจในการอ่านและเรียนรู้ คงเพราะนางได้เรียนรู้โลกกว้างจากหนังสือมากมายเหล่านี้

                  เฮ้อ. เสียงผ่อนลมหายใจเบาๆ ตามมาพร้อมหนังสือที่ถูกปิด หญิงสาวเดินลงจากเตียงแล้วหยุดลงที่ริมหน้าต่างของหอคอยสูงชัน ดวงตามองออกไปไกลสุดไกลถึงขอบฟ้า การได้เรียนรู้ผ่านหนังสือจะไปดีกว่าการออกไปพบเจอด้วยตัวเองได้อย่างไร

                  ดวงตาสีน้ำผึ้งเหลือบมองเจ้ามังกรร้ายที่เฝ้าอยู่ไม่ไกล ตัวของมันใหญ่โตมโหราฬ เกร็ดของมันเป็นสีดำทมิฬแวววับ ดวงตาสีแดงฉานของมันช่างดูดุร้าย กรงเล็บใหญ่และเขี้ยวแหลมคมที่พร้อมจะฉีกขยี้ทุกอย่าง เธอยังจำเสียงคำรามของมันได้เหมือนมันก้องอยู่ในหัวตลอดเวลา เพียงแค่นึกถึงร่างบอบบางก็สั่นเกร็ง เธอกอดแขนของตัวเองเพื่ออดกลั้นความกลัวนั้น น้ำตาใสค่อยๆรื้นจนคลอเต็มหน่วย

                  ได้โปรดเถิด.. เจ้าชายผู้กล้าหาญ รีบมาฆ่าเจ้ามังกรนั่นซะ แล้วพาข้าออกไปจากที่นี่ที….

       

      .

       

      .

       

      .

       

                  เจ้ามังกรร้ายกำลังคิดไม่ตกอีกครั้ง

                  ดูเหมือนเขาจะเข้าใจผิดเกี่ยวกับมนุษย์ไป ความเงียบงันของหอคอยไม่น่าอึดอัดเช่นกาลก่อน เพราะความเงียบครั้งนี้เกิดจากหญิงสาวนั้นกำลังตั้งสมาธิกับหนังสือใหม่ๆของตน แต่ที่เขากำลังสงสัยคือปฎิกิริยาของมนุษย์นางนั้นตะหาก

                  ยามมีความสุขมนุษย์จะยิ้ม แล้วไฉนเขายังได้ยินเสียงสะอื้นไห้ในยามค่ำคืนอยู่ ?

       

       

                  แม้มีหลายคืนที่หญิงสาวผล็อยหลับไประหว่างอ่านหนังสือจนลืมปิดหน้าต่างและห่มผ้าเพื่อกันความหนาวและเพิ่มความอบอุ่นให้ร่างกายเป็นประจำ แต่หลายคืนที่นางไม่อาจข่มตาหลับด้วยหนังสือเล่มใด ความเงียบจะถูกทดแทนด้วยเสียงร้องไห้เบาสะท้อนอื้ออึงเพราะใบหน้างดงามนั้นถูกซ่อนไว้ด้วยฝ่ามือทั้งสอง จนในที่สุดก็ผล็อยหลับไป

                  เขาเข้าใจว่ามนุษย์จะร้องไห้เมื่อมีเรื่องเศร้าโศกเสียใจ และจะยิ้มเมื่อมีความสุข แล้วการที่นางยังร้องไห้อยู่ นั่นหมายถึงนางยังคงเศร้าโศกเสียใจอยู่งั้นสิ?

                  เจ้ามังกรพยายามสรรหาหนังสือใหม่ๆมาให้ แต่นางก็ยังไม่เปลี่ยนไป เจ้ามังกรเปลี่ยนมื้ออาหารให้หรูหรามากยิ่งขึ้น นางก็ยังคงเหมือนเดิม แม้จะสรรหาดอกไม้มากมายที่นางเคยเห็นเพียงภาพหนังสือ นางก็ยังคงเหมือนเคย หรือกระทั่งเสื้อผ้าสวยงามมากมาย ก็ยังคงไม่มีอะไรเปลี่ยนไป

                  ทุกๆสิ่งที่เจ้ามังกรทำได้รับรอยยิ้มเสมอ รอยยิ้มนุ่มนวลชวนมองที่มันชอบ แต่สุดท้ายมันก็จบลงด้วยเสียงร้องไห้ยามค่ำคืนที่มันเกลียดทุกครั้ง

                  หากไม่ใช่รอยยิ้ม มนุษย์ที่มีความสุขต้องเป็นเช่นไร?

       

      .

       

      .

       

      .

       

                  หัวเราะ

                  เสียงหัวเราะสดใสดังแว่วหวานก้องบนหอคอยสูง ร่างของหญิงสาวเข้าไปกอดรัดเสือดำตัวโตที่เธอเพิ่งตั้งชื่อสุดแสนจะไม่เข้ากันว่าลิลลี่ ที่ทำให้เธอหัวเราะจนท้องแข็งได้ เพราะดูมันจะทำหน้าบอกบุญไม่รับทันทีที่ได้ยิน ถึงกระนั้นมันก็ยินดีที่จะออดอ้อนเธอ ของขวัญวันเกิดปีที่สิบแปดจากนางฟ้าแม่ทูนหัวของเธอคือลิลลี่ เจ้าเสือดำตัวโตแสนใจดีผิดกับนิสัยเสือที่ควรจะดุร้าย หลังจากวันนั้นหอคอยก็เต็มไปด้วยเสียงหัวเราะจ้อไม่หยุดของเจ้าหญิง ทั้งเล่านิทาน พูดคุย ละเล่น แกล้งหยอกอย่างสนุกสนาน วันคืนผ่านไปอย่างมีสีสันเพิ่มขึ้นมา

                  ถึงกระนั้นก็ยังมีเสียงร้องไห้ให้ได้ยินอยู่

       

                  เจ้ามังกรร้ายสับสนหนัก หญิงสาวทั้งยิ้มและหัวเราะ แต่นางก็ยังไม่มีความสุข การมีลิลลี่ไม่ได้ทำให้เธอมีความสุข หรือว่ามันยังไม่ใช่สิ่งที่เธอต้องการกันแน่?

                  ค่ำคืนนี้ไร้เสียงสะอื้นไห้ เจ้ามังกรเดาว่าคืนนี้หญิงสาวคงเหนื่อยจากการเล่นกับลิลลี่ทั้งวัน หรือไม่ก็คงอ่านหนังสือจนผล็อบหลับไปเหมือนทุกครั้ง ร่างใหญ่โตของมังกรโอบล้อมหอคอยสูง ดวงตาของมันจ้องมองเข้าไปยังเตียงกว้างทางหน้าต่าง  ภาพของหญิงสาวที่หลับอยู่ทำให้มันเอียงคอด้วยความฉงน

                  ใบหน้างดงามหลับพริ้มริมฝีปากระเรื่อยิ้มกว้างอย่างยินดีแสนสุขราวกับความปราถานาใดๆเป็นจริง เจ้ามังกรเดาได้ว่านางคงกำลังฝันดีอย่างมากอยู่เป็นแน่

                  รักแท้…”

       

      .

       

      .

       

      .

       

                  เจ้ามังกรร้ายเฝ้าครุ่นคิด รักแท้คืออะไร?

                  เขาเฝ้าตามหามัน แต่ไม่ว่าจะตามหาที่ใดก็ไม่พบ มันไม่ใช่ทั้งสิ่งของ สถานที่ หรือบุคคล แต่ถึงกระนั้นเจ้ามังกรก็ยังคงออกตามหามันต่อแม้จะไม่ค่อยเข้าใจนัก

                  หากแต่รอยยิ้มที่ได้เห็นในคืนนั้น ตราตรึงฝังฝันในหัว เช่นเดียวกับความรู้สึกของหัวใจที่แปลกประหลาด มันเต้นไหวแรง สูบฉีด พองโต และเจ้ามังกรไม่อาจเข้าใจได้ว่ามันคืออะไร แต่ที่แน่ๆ มันชอบที่ได้รู้สึกแบบนั้นเพราะมนุษย์ผู้หญิงคนนี้

                  และมันต้องการที่จะทำให้รอยยิ้มนั้นปรากฏอีกครั้ง เช่นเดียวกับความรู้สึกนั้นด้วย

       

                  ค่ำคืนนี้แม้จะดึกดื่นแล้วแต่เจ้ามังกรก็ยังนอนไม่หลับ เขายังคงคิดว่าจะจัดการยังไงกับเจ้า รักแท้ ที่หญิงสาวปรารถนาต้องการดี ทำให้คืนนี้มันเลือกที่จะมาแอบดูอีกครั้ง เพื่อจะได้รู้อะไรเกี่ยวกับเจ้า รักแท้ มากยิ่งขึ้น อาจเป็นข้อมูลดีๆที่จะช่วยให้เขาหามันเจอ

                  เจ้ามังกรชะโงกหัวมองไปยังหน้าต่างอีกครั้ง แต่คืนนี้มันต้องชะงักงันเมื่อพบร่างบางนั่งอยู่ที่ริมหน้าต่าง หญิงสาวสะดุ้งถอยห่างจากริมหน้าต่างด้วยความตกใจ ดวงตากลมโตสั่นระริกเมื่อจ้องตอบนัยน์ตาของสัตว์ร้ายสีแดง เจ้ามังกรรู้ตัวว่ากำลังทำให้นางหวาดกลัว ดูเหมือนแผนที่คิดจะลอบฟังเรื่องรักแท้จะต้องเลื่อนไปก่อน มันตัดสินใจจะออกไปให้ห่างจากตัวหอคอย เพื่อให้หญิงสาวผ่อนคลาย

                  แต่แล้ว

       

                  “เดี๋ยวก่อนเสียงหวานเอ่ยเบาๆ แต่ก็มากพอให้เจ้ามังกรหยุดมอง หญิงสาวมีท่าทีลังเลกล้าๆกลัวๆสักครู่ ก่อนจะตัดสินใจหันมองเจ้ามังกรซึ่งๆหน้า

                  จะ เจ้าเองก็นอนไม่หลับหรอเจ้ามังกรเลิกคิ้ว หัวเราะในใจอย่างประหลาดใจ ดูเหมือนนางมนุษย์นี้จะเหงามากจนยอมคุยกับมังกรแล้วรึ?

                  หญิงสาวค่อยๆเดินเข้ามาใกล้ที่ริมหน้าต่างอีกครั้ง เจ้าชื่อกาซีล ใช่หรือเปล่า

                  เจ้ามังกรแปลกใจอีกครั้ง เขาไม่คิดว่าเธอจะจดจำชื่อของเขาได้หรอก เขาตอบไม่ได้จึงทำได้เพียงกดหัวลงเล็กน้อยแทนคำตอบ

                  งะ งั้นเหรอ เมื่อเห็นว่าเจ้ามังกรไม่มีท่าทีอันตราย หญิงสาวก็ดูจะผ่อนคลายขึ้นมาบ้าง

                  ฉันชื่อเลวี่ เป็นครั้งแรกที่ได้รู้จักชื่อของหญิง เลวี่ ดวงตาสีเฮเซลนัทยามต้องแสงจันทร์เป็นประกายจนหวานจนเหมือนน้ำผึ้งพระจันทร์ กาซีลมองมันโดยไม่อาจละสายตาได้ นี่เป็นครั้งแรกที่เขาได้สบตาของเธอชัดๆ และเธอเองก็มองสบตาเขาโดยไม่หวาดกลัว

                  และแล้วก็ปรากฏรอยยิ้ม

       

                  ฉันเล่านิทานให้ฟังเอามั้ย? น้ำเสียงระรื่นฟังดูตื่นเต้น กาซีลคุ้นเคยเสียงเดียวกันนี้ตอนที่เลวี่อ่านหนังสือให้ลิลลี่ฟัง เธอมองเขาโดยไม่หวาดกลัวใดๆ มีเพียงสีหน้าเป็นมิตรและรอยยิ้มที่รอคำตอบ กาซีลทำตัวไม่ถูก เป็นครั้งแรกในรอบร้อยปีของชีวิตมังกรที่เขารู้สึกประหม่า

                  ว่าไง อยากฟังหรือเปล่า ฉันเล่าเก่งนะ ลิลลี่ยังชอบเลย เลวี่พูดอย่างภมูใจ ในขณะที่กาซีลครางอื้ออึงเบาๆในลำคอ อยากจะหัวเราะออกมาซะเหลือเกิน ลิลลี่ยังชอบอะไรกันก็เห็นหลับก่อนเล่าจบทุกที

                  แต่กาซีลก็ยอมที่จะลดหัวไปกับพื้น วางทับอยู่บนเนินแขนทั้งสองข้าง หลับตาลงช้าๆและปล่อยให้เสียงอ่อนโยนขับขานเรื่องราวสู่นิทรา

       

      .

       

      .

       

      .

       

       

                  บางครั้งพวกปีศาจก็แฝงตัวมาในรูปโฉมงดงาม เพื่อฉกฉวยโอกาสและชีวิตของมนุษย์อ่อนแอ

                  กาซีลฉีกกระชากร่างของปีศาจที่จำแลงกายเป็นเจ้าชายมา มันเข้าใกล้หอคอยโดยที่เขาแทบไม่ทันรู้ตัว ที่หน้าต่างบานนั้น เลวี่ยืนรออยู่ เธอมองไปยังเจ้าชายด้วยความดีใจที่ล้นปรี่ โดยที่ไม่รู้เลยว่ากำลังถูกปีศาจหลอกล่อ

                  กาซีลไม่ลังเลที่จะพุ่งเข้าใส่มัน จับฉีกกระชากร่างนั้นจนขาดเป็นชิ้นๆ เลือดคาวสีแดงสดกระเด็นทั่ว นองไหลเป็นทางจนเป็นภาพสยองขวัญ หัวถูกเขี้ยวของมังกรกัดจนจมก่อนจะถูกกัดขาดออกเป็นสองส่วน ร่างตายกรงเล็บเละจนแทบแยกส่วนไม่ได้ กลิ่นคาวคละคลุ้งไปกับสายลมชวนให้อาเจียน

                  ฮึก... เสียงสะอื้นดังอยู่ไม่ห่างทำให้กาซีลรู้โดยไม่ทันต้องหันมอง นัยน์ตาสีเฮเซลที่เคยหวานดุจน้ำผึ้งพระจันทร์คืนนั้นซีดลง ดวงตาเบิกกว้างอย่างตกใจ น้ำตาใสไหลล้นจนอาบใบหน้า มือเล็กๆทั้งสองปิดปากไว้กับภาพตรงหน้าและเหตุการณ์เมื่อครู่ เจ้ามังกรที่เธอคิดว่ามันแตกต่าง

                  จริงๆแล้วไม่ใช่เลย

       

                  ราตรีนั้นหอคอยสูงมีเพียงเสียงร้องไห้สะอื้นปะปนกันกับการอ้อนวอนของเลวี่ น้ำเสียงแสนอ่อนแรงสิ้นหวังเหมือนโลกล่มสลาย แม้จะมองไม่เห็นเพราะหน้าต่างที่ถูกปิดล็อคด้วยคนข้างใน แต่กาซีลก็สัมผัสได้ถึงความเจ็บปวดที่ก่อตัวภายในหัวใจของตน

                  ฮึก ไหนว่าเจ้าชายจะช่วยได้ นางฟ้าแม่ทูนหัว แล้วทำไม ฮึก.. ทำไมถึงเป็นแบบนี้ ได้โปรด ถ้ารักแท้มีจริง ช่วยฉันไปจากมังกรร้ายนี่ที

                  แม้ไม่มีบาดแผล แต่กาซีลรู้สึกเจ็บปวดเสียยิ่งกว่าบาดแผลใดๆที่เคยได้รับ คำพูดทุกประโยคเสียดแทงเหมือนดาบแหลมคมที่อาบยาพิษ มันเจ็บปวดคลั่งค้างและซึมลึกเข้าไปในจิตใจ ที่ตระหนักได้ถึงคำตอบของความจริง

                  สิ่งที่เลวี่ปรารถนาแท้จริง รักแท้ที่นางต้องการ

                  เขาไม่สามารถให้ได้โดยอ้างชื่อ นางฟ้าแม่ทูนหัว ในเรื่องนี้

                  เพราะรักแท้ที่เลวี่ปรารถนา มีเพียงเจ้าชายที่พิชิตมังกรร้ายได้เท่านั้นจะมอบ

                  เพื่อคลายคำสาปที่กักขังเธอ ให้เป็นอิสระและมีความสุขแท้จริง

       

      หัวใจแกร่งกล้าดุจเหล็กไหลของมังกรกำลังแตกร้าว

       

      .

       

      .

       

      .

       

       

                  เสียงกรีดร้องสิ้นใจดังกึกก้องกังวานไปทั่วทุกสารทิศ บอกแก่ทุกคนให้ได้รู้ว่ามังกรร้ายได้ตายลงแล้ว ด้วยคมดาบของเจ้าชายที่เจ้าหญิงรอคอย เขาละทิ้งดาบนั่นไว้บนตัวอสูรร้าย ขึ้นควบอาชาขาวสง่างามไปยังหอคอย แล้วปลดปล่อยเจ้าหญิงจากคำสาปด้วยจุมพิตจากรักแท้ ก่อนจะพาเจ้าหญิงออกไปโดยทิ้งหอคอยร้างไว้กับร่างของมังกรที่ไร้วิญญาณโดยไม่เหลียวกลับมามอง

                  ทั้งสองกลับสู่เมืองด้วยความปลื้มปิติของปวงประชาชน ก่อนจะสาบานรักต่อหน้าพระเจ้าด้วยการแต่งงานและอภิเสกขึ้นเป็นราชาและราชินี อยู่ด้วยกันอย่างมีความสุขชั่วนิรันด์

       

       

       

       

       

       

      กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว ณ อาณาจักรอันไกลโพ้น….

      เจ้าหญิงผู้งดงามโดนมนต์ร้ายสาปให้ถูกขังตลอดกาล

      นางถูกขังบนหอคอยสูงเฉียดฟ้า โดยมีมังกรร้ายเฝ้าอยู่

      และในที่สุดเจ้าชายกล้าหาญก็มาถึง เขาใช้ดาบฟาดฟันมังกรร้ายจนตายสิ้น

      ก่อนจะพาเจ้าหญิงที่มังกรร้ายเฝ้ากักขังมาหลายปีไป

      ถอนคำสาปด้วยจุมพิตจากรักแท้ให้กับเจ้าหญิง

      เจ้าชายและเจ้าหญิงก็แต่งงานกัน และอยู่ด้วยกันอย่างมีความสุขตลอดไป

      เหมือนดั่งเทพนิยายในนิทาน

      .

      .

      .

      .

       

       

       

       

       

      ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      ความคิดเห็น

      ×